6 วิธีรักษาหลุมสิวที่ ได้ผลจริง & เห็นผลเร็ว !!!

ผิวหน้าขรุขระ ไม่เรียบเนียน เพราะมีหลุมสิว ถือเป็นปัญหากวนใจ และจะรักษาหลุมสิวยังไงให้หาย มาดูกันเลย

  1. การทายา
    การรักษาหลุมสิว ด้วยการทายาเหมาะกับหลุมสิวประเภท Rolling scar เพราะเป็นหลุมสิวตื้นๆ อยู่ในระดับที่ยังไม่ลึกมาก ครีมที่มีส่วนผสม Retinoids (วิตามินเอ) มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวให้หลุมสิวดูตื้นและเรียบเนียนขึ้น เช่น Retin-A, Retacnyl, Acnetin-A
  2. การทำเลเซอร์
    การรักษาหลุมสิว ด้วยการทำเลเซอร์เหมาะกับหลุมสิวทั้ง 3 ประเภท Laser fractional คือ การยิงเลเซอร์ชนิดรุนแรงเพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ โดยตัวเลเซอร์สามารถตัดพังผืดแบบแนวดิ่งได้ จึงเหมาะสำหรับหลุมสิวที่กว้างและลึกมากๆ
  3. การลอกผิว
    การรักษาหลุมสิว ด้วยการลอกผิวเหมาะกับหลุมสิวทุกประเภท แต่จะเห็นผลดีที่สุดในหลุมสิวประเภท Rolling scar เพราะเป็นหลุมสิวที่ตื้นจึงรักษาได้ง่ายกว่าหลุมสิวประเภทอื่น
  4. Skin Needle
    การรักษาหลุมสิว ด้วยการทำ Skin Needle หรือ Derma Scar คือ การใช้เข็มขนาดเล็กมากสแตมลงบนผิว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ คอลลาเจน และอิลาสตินของผิวใหม่ ทำให้ผิวได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองเร็วขึ้น หลุมสิวจึงดูตื้นขึ้น 10-30% หลังการรักษาครั้งแรก
  5. การเลาะพังผืด (Subcision)
    การรักษาหลุมสิว ด้วยการเลาะพังผืด (Subcision) คือ การใช้เข็มลักษณะพิเศษที่สามารถสอดลงไปใต้ผิวหนังได้ เพื่อเลาะหรือตัดพังผืดใต้ผิวออก ควรทำติดต่อกันประมาณ 3-5 ครั้ง
  6. การฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
    การรักษาหลุมสิว ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คือ การนำสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) มาฉีดเพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ผิวดูเต็มขึ้น โดยจะเห็นผลว่าหลุมสิวดตื้นขึ้น 30-70% ทันทีหลังฉีด

🎉​ ใครที่อยากรักษาหลุมสิวให้หายจริง แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์หรือคลินิกที่เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ก็ควรป้องกันไม่ให้เกิดสิวขึ้นซ้ำซากหรือลุกลามด้วย เพราะ “สิว” คือต้นเหตุของการเกิดหลุมสิวนั่นเอง

หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
สามารถปรึกษาเราได้ที่: เอลลี่ คลินิกเวชกรรม